รอยร้าว โลกกระจก
“ในที่สุด…ก็ได้เวลาแล้ว” หัวหน้าของกลุ่มเงากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เวลาที่โลกแห่งภาพวาดจะล่มสลาย”
คำพูดนั้นก้องกังวานไปทั่วผืนป่า ราวกับเสียงระฆังแห่งความตาย ฮินาตะรู้สึกราวกับมีมือเย็นเยียบมาบีบหัวใจ 「โลก…จะล่มสลายงั้นเหรอ?」
อาโออิก้าวออกมาข้างหน้า ปกป้องฮินาตะและทาเคดะเซนเซย์ไว้ข้างหลัง ดาบคาตานะในมือของเธอส่องประกายวาววับในแสงจันทร์ “อย่าหวังเลยว่าพวกเราจะยอมให้เป็นแบบนั้น!”
ทาเคดะเซนเซย์กำไม้เท้าแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “เราจะปกป้องโลกแห่งภาพวาด…ด้วยชีวิตของเรา!”
บทที่ 2: สายสัมพันธ์ที่แตกสลาย
หัวหน้าของกลุ่มเงายกมือขึ้นสูง เงาดำมืดก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของมัน กลายเป็นหอกแหลมคมนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าใส่พวกเขาด้วยความเร็วสูง
“ระวัง!” อาโออิร้องเตือน เธอเหวี่ยงดาบคาตานะอย่างรวดเร็ว ปัดป้องหอกเงาออกไป แต่ก็มีบางส่วนหลุดรอดเข้ามา
ทาเคดะเซนเซย์ร่ายเวทมนตร์ป้องกัน สร้างเกราะพลังงานรอบตัวพวกเขา แต่เกราะนั้นก็เริ่มสั่นคลอนจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ฮินาตะรวบรวมพลังเพลิงสีชาด (Shinku no Honō) เตรียมพร้อมที่จะโจมตี แต่ร่างกายของเธอกลับสั่นเทาด้วยความกลัว 「ฉัน…ฉันจะทำได้เหรอ?」
ทันใดนั้น หอกเงาเล่มหนึ่งก็พุ่งทะลุเกราะป้องกันของทาเคดะเซนเซย์
“เซนเซย์!” ฮินาตะและอาโออิร้องออกมาพร้อมกัน
ทาเคดะเซนเซย์ทรุดตัวลงกับพื้น เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากบาดแผล
“เซนเซย์! ท่านเป็นอะไรไหม?” ฮินาตะรีบเข้าไปประคองทาเคดะเซนเซย์
ทาเคดะเซนเซย์ยิ้มอ่อนโยนให้เธอ “ฮินาตะ…อาโออิ…ฝากโลกแห่งภาพวาดไว้กับพวกเธอด้วย…”
“ไม่นะ! เซนเซย์!” ฮินาตะร้องไห้ออกมา น้ำตาไหลอาบแก้ม
อาโอิกัดฟันแน่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น 「เซนเซย์…」
ทาเคดะเซนเซย์เงยหน้ามองไปที่หัวหน้าของกลุ่มเงา “แก…จะต้องชดใช้…”
สิ้นเสียงนั้น ทาเคดะเซนเซย์ก็สิ้นลมหายใจ
ความเงียบเข้าปกคลุมผืนป่า มีเพียงเสียงสะอื้นของฮินาตะเท่านั้นที่ดังแว่วมา
ความโกรธแค้นพลุ่งพล่านอยู่ในใจของฮินาตะและอาโออิ พวกเธอจะไม่ยอมให้ความตายของทาเคดะเซนเซย์สูญเปล่า
ฮินาตะกำมือแน่น 「เซนเซย์…ฉันสัญญา…ฉันจะปกป้องโลกแห่งภาพวาด…ให้ถึงที่สุด」
อาโออิค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ดาบคาตานะในมือของเธอสั่นระริกด้วยความโกรธ
อาโออิหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยให้ความโกรธแค้นเปลี่ยนเป็นพลัง
เมื่อลืมตาขึ้น ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
“แก…” อาโออิพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “แกจะต้องตาย…”
อาโออิพุ่งเข้าใส่หัวหน้าของกลุ่มเงาด้วยความเร็วเหนือแสง ดาบคาตานะของเธอฟาดฟันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
หัวหน้าของกลุ่มเงาป้องกันการโจมตีของอาโออิด้วยความยากลำบาก มันไม่เคยคิดเลยว่ามนุษย์จะสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้
อาโออิและหัวหน้าของกลุ่มเงาต่อสู้กันอย่างดุเดือด พลังของพวกเขาสั่นสะเทือนไปทั่วผืนป่า ต้นไม้ล้มระเนระนาด พื้นดินแตกแยก
ฮินาตะมองดูการต่อสู้อย่างสิ้นหวัง เธอรู้ว่าเธอต้องทำอะไรสักอย่าง เธอต้องช่วยอาโออิ
ฮินาตะรวบรวมพลังเพลิงสีชาดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้กลัวอีกต่อไป เธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความโกรธแค้น
“ฉันจะช่วยเธอ…อาโออิ!” ฮินาตะตะโกน
ฮินาตะรวบรวมสมาธิทั้งหมด เพ่งกระแสจิตไปยังเปลวเพลิงสีชาด (Shinku no Honō) ที่ลุกโชนรอบตัวเธอ
เปลวเพลิงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพายุเพลิงขนาดมหึมา
“ไปเลย!” ฮินาตะตะโกน ปล่อยพายุเพลิงสีชาดเข้าใส่หัวหน้าของกลุ่มเงา
หัวหน้าของกลุ่มเงาคำรามด้วยความเจ็บปวด มันพยายามที่จะดับไฟ แต่เปลวเพลิงสีชาดนั้นร้อนแรงเกินกว่าที่มันจะต้านทานได้
ฮินาตะและอาโออิร่วมมือกันโจมตีหัวหน้าของกลุ่มเงาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาไม่ยอมให้มันมีโอกาสได้พักหายใจ
ในที่สุด หัวหน้าของกลุ่มเงาก็เริ่มอ่อนแรงลง ร่างกายของมันเริ่มสั่นคลอน
“ไม่…เป็นไปไม่ได้…” มันพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ข้า…จะต้องไม่แพ้…”
อาโออิฟาดดาบคาตานะลงบนร่างของหัวหน้าของกลุ่มเงาอย่างแรง ร่างของมันแตกสลายกลายเป็นเงามืด
“จบแล้ว…” อาโออิพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
ฮินาตะวิ่งเข้าไปหาอาโออิ “อาโออิ! เธอไม่เป็นอะไรนะ?”
อาโออิส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร…ขอบคุณนะ…ฮินาตะ”
ฮินาตะและอาโออิกอดกันแน่น พวกเธอรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าและความสูญเสีย
แต่พวกเธอก็รู้ว่าพวกเธอต้องเข้มแข็ง พวกเธอต้องสานต่อเจตนารมณ์ของทาเคดะเซนเซย์ และปกป้องโลกแห่งภาพวาด
ขณะที่ทั้งสองกำลังพักเหนื่อย ฮินาตะก็สังเกตเห็นแสงเรืองรองสีทองส่องประกายออกมาจากร่างของทาเคดะเซนเซย์
“อาโออิ…ดูนั่นสิ…” ฮินาตะพูด
อาโออิหันไปมอง เธอเห็นแสงสีทองค่อยๆ รวมตัวกัน กลายเป็นลูกแก้วขนาดเล็ก
ลูกแก้วนั้นลอยขึ้นมากลางอากาศ แล้วค่อยๆ เคลื่อนที่มาหาฮินาตะ
เมื่อลูกแก้วสัมผัสตัวฮินาตะ แสงสีทองก็ส่องสว่างวาบขึ้น
ภาพความทรงจำมากมายไหลบ่าเข้ามาในสมองของฮินาตะ
เธอเห็นภาพของโลกแห่งภาพวาดในอดีต เห็นภาพของผู้พิทักษ์โลกคนก่อนๆ เห็นภาพของกลุ่มเงาที่พยายามจะทำลายโลกแห่งภาพวาด
และที่สำคัญที่สุด เธอเห็นภาพของทาเคดะเซนเซย์ในวัยหนุ่ม เขาเป็นผู้พิทักษ์โลกที่แข็งแกร่งและกล้าหาญ
“เซนเซย์…” ฮินาตะพึมพำ
เมื่อความทรงจำทั้งหมดไหลผ่านไป ฮินาตะก็รู้สึกถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเธอ
เธอรู้แล้วว่าเธอคือใคร เธอคือผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของผู้พิทักษ์โลก
Status: Yamada Hinata (ผู้สืบทอดเจตนารมณ์)
Level: 7
HP: 100/100
MP: 100/100
Skills: สัมผัสแห่งจิต (Kokoro no Kankaku) ระดับ 4, เพลิงสีชาด (Shinku no Honō) ระดับ 3 (สามารถควบคุมได้อย่างอิสระ), พลังแห่งผู้พิทักษ์ (Mamoribito no Chikara) ระดับ 1
สถานะ: ผู้สืบทอด (Buff: เพิ่มค่าสถานะทั้งหมด)
ฮินาตะลืมตาขึ้น ดวงตาของเธอส่องประกายสีทอง
“ฉันรู้แล้ว…อาโออิ…” ฮินาตะพูด “ฉันรู้แล้วว่าเราต้องทำอะไร”
อาโออิเงยหน้ามองฮินาตะด้วยความสงสัย “เธอรู้…อะไร?”
ฮินาตะยิ้มให้เธอ “โลกแห่งภาพวาด…ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด”
ฮินาตะและอาโออิเดินลึกเข้าไปในป่า พวกเธอเดินตามแสงจันทร์ที่ส่องนำทาง
ในที่สุด พวกเธอก็มาถึงหน้าผาสูงชัน
“ที่นี่…” ฮินาตะพูด “คือทางเข้าสู่โลกเบื้องหลัง”
“โลกเบื้องหลัง…?” อาโออิถามด้วยความสงสัย
ฮินาตะพยักหน้า “โลกแห่งภาพวาด…ถูกสร้างขึ้นจากสองโลก โลกที่เราอยู่…และโลกเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่”
“โลกเบื้องหลัง…คือที่ที่ความลับของโลกแห่งภาพวาดถูกซ่อนไว้”
ฮินาตะเดินไปที่ขอบหน้าผา แล้วกระโดดลงไป
“ฮินาตะ!” อาโออิร้องด้วยความตกใจ เธอรีบกระโดดตามฮินาตะลงไป
ทั้งสองร่วงหล่นลงไปในความมืดมิด
ขณะที่ทั้งสองร่วงหล่นลงไปในความมืดมิด ฮินาตะก็รู้สึกถึงพลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเธอ
เธอรวบรวมพลังเพลิงสีชาด สร้างเป็นปีกเพลิงขนาดใหญ่
ปีกเพลิงพาเธอและอาโออิร่อนลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย
เมื่อเท้าของพวกเธอสัมผัสพื้น ฮินาตะและอาโออิก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเธอเห็น
พวกเธออยู่ในโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง โลกที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสและรูปทรงแปลกประหลาด
“ที่นี่…คือโลกเบื้องหลัง…” ฮินาตะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
