รอยตรา จันทรา
“ที่นี่…คือโลกเบื้องหลัง…” ฮินาตะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเธอช่างแตกต่างจากโลกภาพวาดที่พวกเธอเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง ท้องฟ้าสีแดงก่ำราวกับเลือด แผ่นดินแตกระแหง ต้นไม้เหี่ยวเฉาไร้ชีวิตชีวา
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่?” อาโออิถามด้วยความตกตะลึง
ฮินาตะส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้…แต่ฉันรู้สึกได้ถึงพลังงานที่มืดมิด…มันแผ่ซ่านไปทั่วทุกหนทุกแห่ง” 「พลังงานนี้…มันเหมือนกับตอนที่ฉันถูกเสียงกระซิบควบคุม…」
พวกเธอเดินลึกเข้าไปในโลกเบื้องหลัง ความเงียบเข้าปกคลุมทุกสิ่ง มีเพียงเสียงลมที่พัดหวีดหวิวเท่านั้นที่ดังแว่วมา
ทันใดนั้น เงาดำทะมึนก็ปรากฏขึ้นจากพื้นดิน มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าใส่พวกเธอ
“ระวัง!” อาโออิร้องเตือน
อาโออิชักดาบออกมาจากฝัก เธอฟาดฟันเข้าใส่เงาดำอย่างแม่นยำ แต่เงาดำนั้นกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ มันยังคงพุ่งเข้าใส่พวกเธออย่างต่อเนื่อง
ฮินาตะรวบรวมสมาธิ เธอควบคุมเพลิงสีชาดให้ลุกโชนขึ้นในมือของเธอ
“Shinku no Honō!” ฮินาตะตะโกน
เพลิงสีชาดพุ่งเข้าใส่เงาดำ เผาผลาญมันจนมอดไหม้
แต่เงาดำกลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
“พวกมัน…ไม่มีวันหมดสิ้น!” อาโออิพูดด้วยความกังวล
“เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่!” ฮินาตะพูด
พวกเธอวิ่งหนีเงาดำไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว พวกเธอไม่รู้ว่าพวกเธอกำลังจะไปที่ไหน แต่พวกเธอรู้ว่าพวกเธอต้องรอดชีวิต
เงาแห่งอดีต
ในขณะที่พวกเธอกำลังวิ่งหนี พวกเธอก็ได้พบกับซากปรักหักพังของเมืองโบราณ
“ที่นี่…เคยเป็นเมืองมาก่อนเหรอ?” ฮินาตะถาม
อาโออิพยักหน้า “ฉันเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับเมืองโบราณที่ถูกทำลายโดยกลุ่มเงา…อาจจะเป็นที่นี่ก็ได้”
พวกเธอสำรวจซากปรักหักพังอย่างระมัดระวัง พวกเธอพบกับภาพสลักบนผนังที่เล่าเรื่องราวของสงครามระหว่างผู้พิทักษ์โลกและกลุ่มเงา
“ผู้พิทักษ์โลก…พวกเขาสู้กับกลุ่มเงามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วเหรอ?” ฮินาตะถาม
อาโออิพยักหน้า “ใช่…สงครามนี้ไม่เคยจบสิ้น”
ในขณะที่พวกเธอกำลังสำรวจซากปรักหักพัง พวกเธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้แว่วมา
พวกเธอเดินตามเสียงร้องไห้นั้นไป จนกระทั่งพวกเธอพบกับเด็กสาวคนหนึ่ง
เด็กสาวคนนั้นนั่งอยู่บนพื้นดิน เธอสวมชุดขาดรุ่งริ่ง และใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
“หนู…หนูเป็นอะไรหรือเปล่า?” ฮินาตะถาม
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองพวกเธอ “พวกท่าน…เป็นใคร?”
“พวกเรา…เป็นนักเดินทาง” ฮินาตะตอบ “พวกเรามาที่นี่เพื่อตามหาความจริง”
เด็กสาวเช็ดน้ำตา “ความจริง…ไม่มีความจริงอะไรในโลกนี้หรอก”
“ทำไมหนูถึงพูดอย่างนั้น?” ฮินาตะถาม
“เพราะว่า…กลุ่มเงาได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน” เด็กสาวตอบ “พวกเขาฆ่าพ่อแม่ของฉัน…พวกเขาทำลายบ้านของฉัน…พวกเขาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง”
ฮินาตะรู้สึกสงสารเด็กสาว 「ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอ…ความรู้สึกของการสูญเสีย…ความรู้สึกของการสิ้นหวัง…」
“หนู…ไม่เป็นไรนะ” ฮินาตะพูด “พวกเราจะช่วยหนูเอง”
เด็กสาวส่ายหน้า “ไม่มีใครช่วยฉันได้หรอก…ไม่มีใครสามารถเอาชนะกลุ่มเงาได้”
“ไม่จริง!” อาโออิพูด “พวกเราจะเอาชนะกลุ่มเงาให้ได้…เพื่อหนู…เพื่อทุกคนที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป”
เด็กสาวมองหน้าอาโออิด้วยความสงสัย “ท่าน…จะทำได้จริงเหรอ?”
“แน่นอน!” อาโออิตอบ “พวกเราจะทำทุกวิถีทาง…เพื่อปกป้องโลกใบนี้”
ปราสาทจันทรา
เด็กสาวบอกพวกเธอว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งที่ยังคงปลอดภัยจากกลุ่มเงา นั่นคือปราสาทจันทรา
“ปราสาทจันทรา…เป็นที่ประทับของราชินีแห่งจันทรา” เด็กสาวกล่าว “พระองค์เป็นผู้มีพลังอำนาจ…พระองค์อาจจะสามารถช่วยพวกท่านได้”
ฮินาตะและอาโอิตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังปราสาทจันทรา พวกเธอรู้ว่ามันเป็นความหวังเดียวของพวกเธอ
หลังจากเดินทางมาหลายวัน พวกเธอก็ได้เห็นปราสาทจันทรา ปราสาทนั้นตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงตระหง่าน มันส่องประกายสีเงินภายใต้แสงจันทร์
เมื่อพวกเธอเข้าไปในปราสาท พวกเธอก็ได้รับการต้อนรับจากข้าราชบริพารของราชินีแห่งจันทรา
พวกเธอถูกนำตัวไปพบกับราชินีแห่งจันทรา ราชินีนั้นงดงามราวกับเทพธิดา เธอมีผมสีเงินยาวสลวย และดวงตาสีฟ้าที่ส่องประกาย
“ยินดีต้อนรับ…ผู้พิทักษ์โลก” ราชินีแห่งจันทรากล่าว “ข้ากำลังรอพวกเจ้าอยู่”
ฮินาตะและอาโอิคุกเข่าลงต่อหน้าราชินีแห่งจันทรา
“พระองค์…ทรงทราบเรื่องของพวกเรา?” ฮินาตะถาม
ราชินีแห่งจันทรายิ้ม “ข้ารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง…ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร”
“พวกเรา…ต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์” อาโออิพูด “โลกแห่งภาพวาดกำลังจะล่มสลาย…พวกเราต้องหยุดกลุ่มเงาให้ได้”
ราชินีแห่งจันทราพยักหน้า “ข้ารู้…ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง”
ราชินีแห่งจันทราเล่าเรื่องราวของสงครามระหว่างผู้พิทักษ์โลกและกลุ่มเงาให้พวกเธอฟัง
“กลุ่มเงา…เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากความมืดมิด” ราชินีแห่งจันทรากล่าว “พวกมันต้องการที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง…พวกมันต้องการที่จะกลืนกินโลกแห่งภาพวาด”
“ผู้พิทักษ์โลก…เป็นผู้ที่ถูกเลือก” ราชินีแห่งจันทรากล่าว “พวกเจ้ามีพลังที่จะต่อต้านความมืดมิด…พวกเจ้าคือความหวังเดียวของโลกใบนี้”
ราชินีแห่งจันทรามอบพลังใหม่ให้กับฮินาตะ เธอสัมผัสหน้าผากของฮินาตะด้วยนิ้วมือของเธอ
“จงรับพลังแห่งจันทรา…จงใช้มันเพื่อปกป้องโลกใบนี้” ราชินีแห่งจันทรากล่าว
Status: Yamada Hinata (ผู้สืบทอดเจตนารมณ์, ผู้ได้รับพรจากจันทรา)
Level: 8
HP: 120/120
MP: 150/150
Skills: สัมผัสแห่งจิต (Kokoro no Kankaku) ระดับ 5, เพลิงสีชาด (Shinku no Honō) ระดับ 4 (สามารถควบคุมได้อย่างอิสระและทรงพลังยิ่งขึ้น), พลังแห่งผู้พิทักษ์ (Mamoribito no Chikara) ระดับ 2, พรแห่งจันทรา (Tsuki no Shukufuku) ระดับ 1 (เพิ่มพลังเวทย์มนตร์และพลังป้องกันในเวลากลางคืน)
สถานะ: ผู้สืบทอด (Buff: เพิ่มค่าสถานะทั้งหมด), ผู้ได้รับพรจากจันทรา (Buff: เพิ่มพลังเวทย์มนตร์ในเวลากลางคืน)
ฮินาตะรู้สึกถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเธอ พลังนั้นเป็นพลังแห่งจันทรา พลังที่อ่อนโยนแต่แข็งแกร่ง
「ฉัน…แข็งแกร่งขึ้นแล้ว…ฉันจะสามารถปกป้องทุกคนได้!」 ฮินาตะคิดอย่างมุ่งมั่น
“ขอบคุณ…พระองค์” ฮินาตะกล่าว
ราชินีแห่งจันทราพยักหน้า “จงไป…ผู้พิทักษ์โลก…จงต่อสู้เพื่อโลกใบนี้…จงนำความหวังกลับคืนมา”
แสงแห่งความหวัง
ฮินาตะและอาโอิออกจากปราสาทจันทรา พวกเธอรู้ว่าการเดินทางของพวกเธอยังไม่จบสิ้น พวกเธอยังต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มเงาและปกป้องโลกแห่งภาพวาด
“เราจะทำยังไงต่อไป…ฮินาตะ?” อาโออิถาม
ฮินาตะมองไปที่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว “เราจะรวบรวมพันธมิตร…เราจะสร้างกองทัพ…เราจะต่อสู้กับกลุ่มเงา”
อาโออิยิ้ม “ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ…เสมอ”
ฮินาตะและอาโอิจับมือกัน พวกเธอรู้สึกถึงความหวังที่ลุกโชนขึ้นในใจของพวกเธอ
พวกเธอรู้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก แต่พวกเธอจะไม่ยอมแพ้ พวกเธอจะต่อสู้จนถึงที่สุด…เพื่อปกป้องโลกแห่งภาพวาด…เพื่อทุกคนที่พวกเธอรัก
ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางกลับ พวกเขาสังเกตเห็นแสงสว่างที่ปลายขอบฟ้า มันเป็นแสงสีทองที่ส่องประกายเจิดจ้า
“นั่นมัน…อะไรน่ะ?” อาโออิถาม
ฮินาตะจ้องมองไปที่แสงนั้น เธอรู้สึกถึงพลังที่คุ้นเคย
“เซนเซย์…” ฮินาตะพึมพำ “ฉันรู้สึกถึงเซนเซย์”
ทั้งสองรีบวิ่งไปตามแสงนั้น พวกเขาหวังว่าจะได้พบกับความจริง…ความจริงเกี่ยวกับโลกแห่งภาพวาด…ความจริงเกี่ยวกับทาเคดะเซนเซย์
แต่สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่เบื้องหน้าคืออะไรกันแน่?
