กระจก... พลังที่ซ่อน
「นี่มัน… เกม?」 ผมพึมพำออกมาเบาๆ หน้าต่างสถานะลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ตัวอักษรสีขาวสว่างจ้าตัดกับพื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม เหมือนหลุดเข้าไปในโลกของ RPG ยังไงยังงั้น
โอกามิ-เซนเซหัวเราะเบาๆ “ไม่เชิงหรอก ยูกิ-คุง มันเป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอน่ะ”
“ศักยภาพ?” ผมขมวดคิ้ว “ผมเนี่ยนะ?”
“ใช่แล้ว” โอกามิ-เซนเซพยักหน้า “เธอมีความสามารถพิเศษในการเข้าใจความรู้สึกของสิ่งมีชีวิตอื่น ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือแม้แต่… วิญญาณ”
ก่อนที่ผมจะได้ทันถามอะไรต่อ เสียงใสๆ ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
“นี่มันอะไรกันน่ะ? ทำไมถึงมีหน้าต่างแปลกๆ ลอยอยู่ตรงหน้าเซนเซด้วย?” ริน นักรบสาวผมแดงเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าสงสัย เธอสวมชุดเกราะหนังสีดำสนิท และคาตานะที่เอวของเธอดูคมกริบ
“อ้อ นี่เป็น ‘สถานะ’ ของยูกิ-คุงน่ะ” โอกามิ-เซนเซตอบ “มันแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขา”
รินมองหน้าต่างสถานะด้วยสายตาที่ไม่เชื่อ “ไร้สาระสิ้นดี! พลังเวทมนตร์ของคนเราวัดกันที่การต่อสู้ ไม่ใช่ตัวเลขพวกนี้!”
「เธอคงไม่เชื่อเรื่องแบบนี้สินะ แต่ถึงยังไง ฉันก็อยากรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง」
ประตูมิติ
โอกามิ-เซนเซหัวเราะเบาๆ กับท่าทีของริน “เอาล่ะๆ ก่อนที่เราจะทะเลาะกันไปมากกว่านี้ เรามาคุยกันเรื่องดาบกันดีกว่า ริน-จัง”
สีหน้าของรินเปลี่ยนเป็นจริงจัง “ดาบอาเมะ-โนะ-มุระคุโมะ… มันถูกขโมยไปเมื่อคืนก่อน”
“ฉันรู้” ผมพูดขึ้น “ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนที่ดาบถูกขโมยไป”
รินหันมามองผมด้วยสายตาประหลาดใจ “นายเห็น? นายเห็นได้ยังไง?”
“มันเป็น… ความสามารถพิเศษของผมน่ะ” ผมตอบอย่างเลี่ยงๆ
โอกามิ-เซนเซพยักหน้า “ยูกิ-คุงสามารถมองเห็นความทรงจำที่ฝังอยู่ในวัตถุได้”
“โกหกน่า!” รินโต้แย้ง “ไม่มีใครมีความสามารถแบบนั้นได้หรอก!”
“เชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่เธอ” โอกามิ-เซนเซยักไหล่ “แต่ถ้าเธออยากได้ดาบคืน เธอคงต้องพึ่งพาความสามารถของยูกิ-คุง”
รินกัดฟัน “ก็ได้… ฉันจะเชื่อพวกนาย แต่ถ้านายหลอกฉัน…”
“ฉันจะไม่หลอกเธอ” ผมตอบอย่างหนักแน่น
โอกามิ-เซนเซเดินไปที่ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ แล้วกดปุ่มอะไรบางอย่าง ผนังค่อยๆ เลื่อนเปิดออก เผยให้เห็นทางเดินแคบๆ
“นี่คือทางเข้าสู่ ‘เขาวงกตแห่งป่า’ ” โอกามิ-เซนเซกล่าว “เป็นสถานที่ที่เชื่อมต่อกับโลกของเธอ ริน-จัง พวกเธอจะต้องไปตามหาดาบที่นั่น”
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “เขาวงกต… ในร้านสะดวกซื้อเนี่ยนะ?”
ก้าวแรกสู่ต่างโลก
รินเดินนำหน้าผมเข้าไปในทางเดินแคบๆ เธอเดินอย่างคล่องแคล่วราวกับคุ้นเคยกับสถานที่นี้เป็นอย่างดี ส่วนผมเดินตามหลังเธอไปอย่างเก้ๆ กังๆ
“ระวังตัวด้วย ยูกิ” รินเตือน “ในเขาวงกตมีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่”
“สัตว์ประหลาด?” ผมถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“ใช่ สัตว์ประหลาดที่อันตรายมาก” รินตอบ “ถ้าไม่ระวังตัว อาจถึงตายได้”
ทางเดินค่อยๆ กว้างขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ ผนังอุโมงค์เต็มไปด้วยรากไม้เลื้อย และมีแสงสลัวๆ ส่องเข้ามาจากด้านบน
“ที่นี่มัน…” ผมพึมพำ
“ยินดีต้อนรับสู่เขาวงกตแห่งป่า” รินกล่าวด้วยรอยยิ้มเยาะ “โลกของฉัน”
ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามดังขึ้นมาจากด้านหน้า ร่างสีดำทะมึนพุ่งออกมาจากความมืด
“ระวัง!” รินตะโกน พร้อมกับชักดาบคาตานะออกมาจากฝัก
มันคือ… หมาป่าตัวใหญ่ยักษ์ ดวงตาสีแดงก่ำของมันจ้องมาที่พวกเราอย่างดุร้าย
“รีบหนีไป ยูกิ!” รินตะโกน “ฉันจะจัดการเอง!”
「หนีไป? ฉันจะหนีไปได้ยังไง? ฉันไม่เคยสู้กับอะไรแบบนี้มาก่อน!」
แต่ก่อนที่ผมจะได้ทันขยับตัว หมาป่าก็พุ่งเข้าใส่รินด้วยความเร็วสูง รินยกดาบขึ้นป้องกัน แต่แรงปะทะทำให้เธอเซถอยหลังไปหลายก้าว
“แข็งแกร่งกว่าที่คิด…” รินพึมพำ
「ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง」 ผมคิดในใจ
ผมหลับตาลง พยายามรวบรวมสมาธิ แล้วจินตนาการถึงความรู้สึกของหมาป่า
ความโกรธ… ความหิว… ความเจ็บปวด…
ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วมองไปที่หมาป่าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
“หยุด!” ผมตะโกน
หมาป่าชะงักฝีเท้า มันมองมาที่ผมด้วยสายตาที่สับสน
「มัน… ฟังฉัน?」
พลังที่ตื่นขึ้น
ผมก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ “ฉันรู้ว่าเธอเจ็บปวด ฉันรู้ว่าเธอหิว แต่การทำร้ายคนอื่นไม่ใช่ทางออก”
หมาป่าคำรามเบาๆ
“ฉันจะช่วยเธอ” ผมพูด “ฉันจะหาอาหารให้เธอ”
หมาป่าค่อยๆ ลดท่าทีดุดันลง มันเดินเข้ามาใกล้ผมอย่างระมัดระวัง
รินมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความตกตะลึง “นาย… ทำอะไรของนายเนี่ย?”
ผมหันไปยิ้มให้ริน “ผมกำลังคุยกับเขาน่ะ”
ทันใดนั้นเอง หน้าต่างสถานะก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าผมอีกครั้ง
Status: Nakamura Yuuki
Level: 1
HP: 50
MP: 20
STR: 10
MAG: 5
DEF: 10
RES: 5
SPD: 12
Skills: Tsūji au Kokoro (จิตที่สื่อถึงกัน)
「Skills? จิตที่สื่อถึงกัน? นี่มัน… ความสามารถที่แท้จริงของฉัน?」
หมาป่าครางเบาๆ แล้วคลอเคลียกับขาของผม
“ดูเหมือนว่าเขาจะชอบนายนะ” รินพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“ผมก็คิดอย่างนั้น” ผมตอบ
แต่ในขณะนั้นเอง เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นมาจากความมืด
“น่าประทับใจ… เด็กหนุ่มผู้มีจิตใจดี” เสียงทุ้มต่ำกล่าว “แต่เสียใจด้วยนะ… เพราะฉันต้องการดาบอาเมะ-โนะ-มุระคุโมะมากกว่า!”
ร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมสีดำปรากฏตัวขึ้น เขาถือดาบเล่มใหญ่ไว้ในมือ และดวงตาสีแดงของเขาเปล่งประกายความชั่วร้าย
“ใครน่ะ?” รินถามด้วยเสียงเคร่งเครียด
“คนที่ขโมยดาบไปไงล่ะ” ชายในชุดคลุมตอบ “และตอนนี้… ฉันจะกำจัดพวกแกซะ!”
「แย่แล้ว!」
เผชิญหน้าศัตรู
ชายในชุดคลุมพุ่งเข้าใส่พวกเราด้วยความเร็วสูง ดาบเล่มใหญ่ของเขาฟาดลงมาด้วยพลังมหาศาล
รินรีบยกดาบขึ้นป้องกัน แต่แรงปะทะทำให้เธอเซถอยหลังไปอีกครั้ง
“แกมันอ่อนแอเกินไป!” ชายในชุดคลุมหัวเราะ
ผมรู้ว่ารินไม่สามารถเอาชนะเขาได้เพียงลำพัง ผมต้องทำอะไรสักอย่าง!
ผมหลับตาลงอีกครั้ง พยายามรวบรวมมานะ แล้วจินตนาการถึงพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
「ฉันจะช่วยเธอ ริน!」
เมื่อผมลืมตาขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของผมเปล่งประกายสีทอง
ผมก้าวไปข้างหน้า ขวางระหว่างรินกับชายในชุดคลุม
“แกคิดจะทำอะไร?” ชายในชุดคลุมถามด้วยความสงสัย
“ฉันจะปกป้องเธอ” ผมตอบ
“ปกป้อง? แกเนี่ยนะ?” ชายในชุดคลุมหัวเราะ “แกมันก็แค่เด็กอ่อนหัด!”
เขาเงื้อดาบขึ้นอีกครั้ง เตรียมที่จะฟาดฟันผมให้ขาดเป็นสองท่อน
แต่ในขณะนั้นเอง… ผมก็รู้สึกถึงพลังบางอย่างไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
พลังที่… ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ผมยกมือขึ้น แล้วพูดด้วยเสียงที่ดังและก้องกังวาน
“Tsūji au Kokoro!”
แสงสีทองสว่างจ้าแผ่ออกมาจากตัวผม แสงนั้นพุ่งเข้าใส่ชายในชุดคลุม ทำให้เขาชะงักฝีเท้า
“อะไรกันน่ะ? พลังอะไรกัน?” เขาถามด้วยความตกใจ
ผมไม่ตอบ แต่ผมรู้ว่า… ผมสามารถทำอะไรบางอย่างได้
ผมสามารถ… ช่วยเหลือรินได้
「ฉันจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายเธอ」
ผมพุ่งเข้าใส่ชายในชุดคลุมด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน
การต่อสู้… เพิ่งเริ่มต้นขึ้น!
