เงา...กลืนกินแสง
“มันเริ่มแล้ว…” โซระพูด “สงคราม…กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
ความเงียบเข้าปกคลุมตรอกมืด มีเพียงเสียงหอบหายใจของโซระที่ดังแข่งกับเสียงลมพัดเบาๆ 「บ้าจริง…ทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยเนี่ย?」 เขาคิด พลางกัดฟันแน่น ความรู้สึกสิ้นหวังเริ่มกัดกินจิตใจ แต่ภาพของอากาเรอิและผู้คนในเมืองหลวงก็ปรากฏขึ้นในความคิด
“ไม่…ฉันต้องสู้” โซระพึมพำ
เผชิญหน้าความมืด
“แกกล้าขัดขวางฉันหรือ?” ชายในชุดคลุมสีดำคำราม เสียงของเขาแหบพร่าและเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
โซระจ้องมองชายคนนั้นอย่างไม่หวาดหวั่น “ฉันไม่รู้ว่านายต้องการอะไร แต่ฉันจะไม่ยอมให้นายทำร้ายใคร”
“งั้นก็จงตายไปซะ!” ชายคนนั้นร่ายเวทมนตร์อีกครั้ง คราวนี้พลังเวทของเขาดูเหมือนจะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
โซระหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และรวบรวมสมาธิ เขาพยายามจดจำสิ่งที่คางุยะเคยสอนเรื่องการควบคุมมานา
ทันใดนั้น ความรู้สึกอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย แสงสีฟ้าอ่อนๆ เปล่งประกายออกมาจากแหวนบนนิ้วของเขา
Status: Fujimura Sora (藤村 空)
Level: 3
พลังเวทมนตร์ (Maryoku): 70
พลังกาย (Tairyoku): 40
ความเร็ว (Sokudo): 80
สติปัญญา (Chisei): 50
โชค (Un): 30
Skills: สัมผัสมานา (Mana Kanchi), ปลดปล่อยพลังเวท (Maryoku Kaiho), คลื่นมานา (Mana Hado)
ทักษะใหม่ปรากฏขึ้น! คลื่นมานา (Mana Hado)!
โซระลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายสีฟ้า “ฉันจะปกป้องทุกคนให้ได้!” เขาตะโกน
ชายในชุดคลุมสีดำพุ่งเข้ามาโจมตี โซระใช้ทักษะ "คลื่นมานา" ปล่อยพลังเวทออกไปจากมือ พลังเวทสีฟ้าพุ่งเข้าปะทะกับชายคนนั้นอย่างจัง
“อ๊าก!” ชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขากระเด็นถอยหลังไปกระแทกกับกำแพง
「พลังเวทของฉัน…แข็งแกร่งขึ้นมาก」 โซระรู้สึกประหลาดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นของเขา
เสียงระฆังแห่งความโกลาหล
ในขณะที่โซระกำลังประหลาดใจกับพลังของตัวเอง เสียงระฆังดังสนั่นก็ดังขึ้นจากใจกลางเมืองหลวง เสียงระฆังกังวานไปทั่วทุกหนแห่ง ปลุกความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คน
“เกิดอะไรขึ้น?” โซระพึมพำ
ชายในชุดคลุมสีดำหัวเราะ “ฮ่าๆๆ…ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้ว!” เขากระอักเลือดออกมา
“แผนอะไร?” โซระถามอย่างสงสัย
“พวกเรา…จะทำลายทุกสิ่ง…” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงเรื่อยๆ ก่อนที่จะหมดสติไป
โซระรีบวิ่งออกไปจากตรอกมืด ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้เขาตกตะลึง งานเทศกาลที่เคยเต็มไปด้วยความสุขและความรื่นเริง บัดนี้กลับกลายเป็นสนามรบ
กลุ่มคนในชุดคลุมสีดำปรากฏตัวขึ้น พวกเขากำลังโจมตีผู้คนอย่างไร้ความปราณี พลังเวทที่พวกเขาใช้เต็มไปด้วยความมืดมิดและชั่วร้าย
“บ้าจริง!” โซระสบถ เขาต้องทำอะไรสักอย่าง
“โซระ!” เสียงของอากาเรอิดังมาจากด้านหลัง
อากาเรอิวิ่งเข้ามาหาโซระด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! พวกมันกำลังจะทำลายบาเรียที่ปกป้องเมืองหลวง!”
“บาเรีย?” โซระถาม
“ใช่ บาเรียที่ป้องกันไม่ให้สัตว์อสูรเข้ามาในเมืองหลวง ถ้าบาเรียถูกทำลาย…เมืองหลวงจะตกอยู่ในอันตราย” อากาเรอิอธิบาย
“แล้วเราจะทำยังไง?” โซระถาม
“เราต้องหยุดพวกมัน!” อากาเรอิตอบอย่างเด็ดเดี่ยว
ประกายแห่งความหวัง
อากาเรอิร่ายเวทมนตร์สร้างดาบเวทมนตร์ขึ้นมา ดาบเล่มนั้นเปล่งประกายสีขาวบริสุทธิ์
“ฉันจะจัดการพวกที่อยู่ใกล้ๆ เอง นายไปช่วยคนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย” อากาเรอิสั่ง
“เข้าใจแล้ว!” โซระตอบ เขาใช้ทักษะ "ปลดปล่อยพลังเวท" เพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และวิ่งเข้าไปช่วยเหลือผู้คนที่กำลังถูกโจมตี
อากาเรอิพุ่งเข้าต่อสู้กับกลุ่มคนในชุดคลุมสีดำอย่างกล้าหาญ ทักษะการใช้ดาบของเธอนั้นยอดเยี่ยม พลังเวทของเธอก็แข็งแกร่ง เธอสามารถปราบศัตรูได้อย่างรวดเร็ว
โซระใช้ทักษะ "คลื่นมานา" เพื่อผลักศัตรูออกไปจากผู้คน เขาพยายามปกป้องผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่จำนวนศัตรูนั้นมีมากเกินไป พวกมันยังคงถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
“แย่แล้ว…” โซระพึมพำ
ทันใดนั้น อากาเรอิก็ถูกศัตรูโจมตีจากด้านหลัง เธอถูกพลังเวทของศัตรูกระแทกจนกระเด็นไปกระแทกกับพื้น
“อากาเรอิ!” โซระตะโกน
อากาเรอิพยายามลุกขึ้นยืน แต่เธอก็หมดแรงเสียแล้ว
“แกจะต้องชดใช้!” โซระคำราม เขาโกรธจัดที่อากาเรอิถูกทำร้าย
พลังเวทของโซระพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แสงสีฟ้าจากแหวนสว่างจ้าจนแสบตา
“ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอ!” โซระตะโกนเสียงดัง
พลังเวทของโซระรวมตัวกันเป็นรูปทรงคล้ายดาบขนาดใหญ่ ดาบเล่มนั้นเปล่งประกายสีฟ้าอันทรงพลัง
โซระเงื้อดาบขึ้นเหนือศีรษะ และฟาดฟันลงไปที่ศัตรู
“จงหายไปซะ!” โซระตะโกน
พลังเวทจากดาบพุ่งเข้าปะทะกับศัตรูอย่างจัง เกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง
เมื่อทุกอย่างสงบลง โซระก็ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง เขามองไปรอบๆ ตัว เขาเห็นผู้คนมากมายที่ได้รับการช่วยเหลือ
อากาเรอิเดินเข้ามาหาโซระด้วยรอยยิ้ม
“เก่งมาก โซระ” เธอกล่าว
โซระยิ้มตอบ “ขอบคุณ อากาเรอิ”
แต่ชัยชนะของพวกเขานั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ภัยคุกคามที่แท้จริงยังคงซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
