พันธนาการ...แห่งเงา
“โซระ!” อากาเรอิร้อง เสียงของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ
ก่อนที่ผมจะได้ทันตอบสนอง ร่างของอากาเรอิก็ถูกเงาสีดำทะมึนกลืนกินไปต่อหน้าต่อตา 마치 *คาเงะบุชิน* (เหมือนร่างเงาแยก) ที่ปรากฏขึ้นจากพื้นดิน เงาเหล่านั้นรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ คว้าตัวอากาเรอิแล้วดึงร่างของเธอหายลับไปในความมืดมิด
「อากาเรอิ…หายไปแล้วงั้นเหรอ?」 ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก *โดกุน โดกุน* ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วง ผมปกป้องเธอไม่ได้…อีกแล้ว
คุโรกิ เรย์ ซึ่งยังคงยืนอยู่ข้างๆ ผม ได้แต่กัดฟันแน่น “พวก *เงามัจจุราช*… เร็วกว่าที่คิด”
ร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้
“เงามัจจุราช?” ผมถามเสียงสั่นเครือ “พวกนั้นคือใคร?”
คุโรกิ เรย์ถอนหายใจ “เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษขององค์กรเงา พวกเขามีความสามารถในการเคลื่อนที่ในเงามืดได้อย่างอิสระ และเชี่ยวชาญการลอบสังหาร…การที่พวกเขามาที่นี่ แสดงว่าองค์กรเงาเอาจริงแล้ว”
ผมกำมือแน่น พยายามควบคุมความโกรธและความสิ้นหวัง “แล้วเราจะช่วยอากาเรอิได้ยังไง?”
คุโรกิ เรย์กวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณ “พวกมันทิ้งร่องรอยไว้…จางมาก แต่ยังพอตามได้” เธอคุกเข่าลง สัมผัสพื้นดินด้วยมือ แล้วหลับตาลง ราวกับกำลังฟังเสียงกระซิบจากผืนดิน
“พวกมันมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก…ลึกเข้าไปในป่าต้องสาป” คุโรกิ เรย์ลืมตาขึ้น แววตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “เราต้องรีบตามไป”
ผมพยักหน้า “ไปสิ! ผมจะไม่ยอมให้พวกมันทำอะไรอากาเรอิเด็ดขาด!”
เราสองคนออกวิ่งตามร่องรอยที่คุโรกิ เรย์บอกทันที ป่าต้องสาปดูน่ากลัวกว่าเดิม แสงอาทิตย์แทบจะส่องลงมาไม่ถึงพื้นดิน ทำให้บรรยากาศรอบตัวมืดครึ้มและเย็นยะเยือก เสียงลมพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของวิญญาณ 「ขอร้องล่ะ อากาเรอิ…ต้องปลอดภัยนะ」
พันธมิตรที่ไม่คาดฝัน
ระหว่างทาง เราได้พบกับยามาดะ ทาเคชิ ที่กำลังบาดเจ็บสาหัส นอนพิงอยู่กับต้นไม้ใหญ่
“ยามาดะ! เกิดอะไรขึ้นกับนาย?” ผมรีบเข้าไปช่วยพยุงเขาขึ้นมา
ยามาดะไอออกมาเป็นเลือด “พวกมัน…องค์กรเงา…พวกมันบุกโจมตีอาจารย์ใหญ่…และลักพาตัวอากาเรอิไป…”
“นายรู้เรื่ององค์กรเงาด้วยเหรอ?” คุโรกิ เรย์ถามอย่างสงสัย
ยามาดะพยักหน้า “ผม…สืบเรื่องของอาจารย์ใหญ่มาตลอด…และพบว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับองค์กรเงา…ผมพยายามจะเตือนอากาเรอิ…แต่ก็สายไปเสียแล้ว”
“แล้วทำไมพวกมันถึงทำร้ายนาย?” ผมถาม
“ผมขัดขวาง…แผนการของพวกมัน…” ยามาดะตอบเสียงแผ่วเบา “พวกมัน…ต้องการจะโค่นล้มราชวงศ์…และใช้พลังของอากาเรอิ…”
คำพูดของยามาดะทำให้ผมตกตะลึง 「โค่นล้มราชวงศ์? อากาเรอิมีพลังอะไรที่พวกมันต้องการ?」
“พวกเราต้องช่วยอากาเรอิ” คุโรกิ เรย์กล่าว “ยามาดะ นายรู้ข้อมูลอะไรอีกบ้าง?”
ยามาดะรวบรวมกำลัง “พวกมัน…กำลังมุ่งหน้าไปยังวิหารโบราณ…ที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า…ที่นั่น…มีพิธีกรรมบางอย่าง…”
เราสามคนตัดสินใจร่วมมือกัน เพื่อช่วยเหลืออากาเรอิและหยุดยั้งแผนการร้ายขององค์กรเงา แม้ว่ายามาดะจะบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ยังคงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และช่วยนำทางเราไปยังวิหารโบราณ
ผมมองไปที่ยามาดะด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป 「ถึงจะเคยเป็นคู่แข่งกัน แต่ตอนนี้เรามีเป้าหมายเดียวกัน…เราต้องช่วยอากาเรอิให้ได้」
พลังที่ตื่นขึ้น
ระหว่างทาง เราต้องเผชิญหน้ากับทหารเงาที่คอยขัดขวาง พวกมันแข็งแกร่งและรวดเร็ว แต่ด้วยความร่วมมือของพวกเรา เราก็สามารถเอาชนะพวกมันไปได้ทีละคนๆ
ในขณะที่กำลังต่อสู้ ผมรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่กำลังตื่นขึ้นภายในตัวผม พลังที่มากกว่าที่ผมเคยสัมผัสได้ 「นี่คือ…พลังของแหวนเวท?」
ผมลองรวบรวมสมาธิ และพยายามควบคุมพลังนั้น ผมหลับตาลง และจินตนาการถึงอากาเรอิ จินตนาการถึงความรู้สึกของเธอ ความกลัว ความสิ้นหวัง…และความหวัง
ทันใดนั้นเอง ผมก็รู้สึกเหมือนมีสายใยบางอย่างเชื่อมต่อผมกับอากาเรอิ ผมสามารถมองเห็นภาพในความคิดของเธอ ได้ยินเสียงของเธอ…และสัมผัสถึงความรู้สึกของเธอ
ผมลืมตาขึ้น และพบว่ามือของผมกำลังเปล่งแสงสีฟ้าจางๆ ออกมา แสงนั้นสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นดาบแสงที่คมกริบ
Status: Fujimura Sora (藤村 空)
Level: 12
Skills: Mana Kanchi (สัมผัสมานา), Chiyu Maho (รักษาแผล), Hikari no Ken (ดาบแสง)
“*ซุโก้ย*! โซระคุง นายทำได้ยังไง?” ทานากะ ฮานะ อุทานอย่างตกตะลึง
ผมยิ้ม “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน…แต่ผมรู้สึกว่าผมสามารถช่วยอากาเรอิได้”
ผมเงื้อดาบแสงขึ้น และพุ่งเข้าใส่ทหารเงาที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว ด้วยพลังใหม่ที่ผมได้รับมา ผมสามารถเอาชนะพวกมันได้อย่างง่ายดาย
「ผมจะไม่ยอมแพ้…ผมจะช่วยอากาเรอิให้ได้!」 ความมุ่งมั่นของผมแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
สู่ใจกลางความมืด
ในที่สุด เราก็มาถึงวิหารโบราณ มันเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ทำจากหินสีดำ ตั้งตระหง่านอยู่กลางป่า ภายในวิหารมืดมิดและเงียบสงัด มีเพียงแสงจากคบเพลิงที่ส่องสว่างอยู่บ้างเล็กน้อย
“ที่นี่แหละ…ที่ที่พวกมันจะทำพิธีกรรม” ยามาดะกล่าวเสียงเคร่งขรึม
เราเดินเข้าไปในวิหารอย่างระมัดระวัง และพบว่ามีทหารเงาจำนวนมากกำลังยืนเฝ้าอยู่รอบๆ แท่นบูชาขนาดใหญ่ บนแท่นบูชามีร่างของอากาเรอิถูกมัดเอาไว้
“อากาเรอิ!” ผมร้องเสียงดัง
ชายคนหนึ่งที่สวมชุดคลุมสีดำ เดินออกมาจากเงามืด เขาคือผู้นำขององค์กรเงา
“ในที่สุดพวกแกก็มาถึง” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ช้ากว่าที่ข้าคิดไว้”
“ปล่อยอากาเรอิไป!” ผมตะโกน
ผู้นำองค์กรเงาหัวเราะ “ปล่อยไป? ไม่มีทาง…อากาเรอิคือเครื่องมือสำคัญในการบรรลุเป้าหมายของพวกเรา…การโค่นล้มราชวงศ์…และการสร้างโลกใหม่!”
“ข้าจะไม่มีวันยอมให้แกทำสำเร็จ!” ผมตอบ
“งั้นก็เข้ามาสิ…ถ้าแกกล้าพอ” ผู้นำองค์กรเงายิ้มเยาะ “แต่จงจำไว้…ถ้าแกเข้ามา…แกจะต้องตาย!”
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น…ชีวิตของอากาเรอิ…และอนาคตของอาณาจักรเอเทอร์เรีย…ขึ้นอยู่กับผมแล้ว
