เงินเดือนเท่าไหร่ ซื้อบ้านได้? คำนวณง่าย เข้าใจจริง!
การมีบ้านเป็นของตัวเองถือเป็นความฝันของใครหลายคน แต่คำถามสำคัญคือ “เงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะซื้อบ้านได้?” คำตอบนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องนำมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน, หนี้สิน, ค่าใช้จ่ายต่างๆ, ประเภทของบ้าน, ทำเลที่ตั้ง, และอัตราดอกเบี้ย บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงปัจจัยเหล่านี้และวางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้านในฝันของคุณได้อย่างมั่นใจ
เงินเดือนกับมูลค่าบ้านที่เอื้อมถึง
โดยทั่วไปแล้ว ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระหนี้จากรายได้ของผู้กู้ โดยมีหลักการคร่าวๆ ว่าผู้กู้ควรมีภาระหนี้สินรวมไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
ช่วงเงินเดือนและราคาบ้านที่เหมาะสม
- เงินเดือน 20,000 - 30,000 บาท: สามารถซื้อคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก หรือทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 1.5 - 2 ล้านบาท
- เงินเดือน 30,001 - 50,000 บาท: สามารถซื้อทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยวขนาดเล็กราคา 2 - 3.5 ล้านบาท
- เงินเดือน 50,001 - 70,000 บาท: สามารถซื้อบ้านเดี่ยวขนาดกลาง หรือทาวน์เฮาส์ในทำเลที่ดี ราคา 3.5 - 5 ล้านบาท
- เงินเดือน 70,000 บาทขึ้นไป: สามารถซื้อบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ หรือคอนโดมิเนียมหรู ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป
**หมายเหตุ: ราคาบ้านเป็นเพียงค่าประมาณและอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและโครงการ
อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ (dti) คืออะไร?
dti หรือ debt-to-income ratio คือ อัตราส่วนที่ธนาคารใช้ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ โดยคำนวณจากหนี้สินรวมทั้งหมดต่อรายได้รวมต่อเดือน
สูตรคำนวณ dti
dti = (หนี้สินรวมต่อเดือน / รายได้รวมต่อเดือน) x 100
ตัวอย่าง: หากคุณมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน และมีหนี้สิน (รวมผ่อนรถ, บัตรเครดิต) 9,000 บาทต่อเดือน dti ของคุณคือ (9,000 / 30,000) x 100 = 30%
โดยทั่วไป ธนาคารจะชอบ dti ที่ต่ำกว่า 40% แสดงว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดี
ประเภทสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทย
การเลือกประเภทสินเชื่อและทำความเข้าใจอัตราดอกเบี้ยเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนซื้อบ้าน
ประเภทของอัตราดอกเบี้ย
- ดอกเบี้ยคงที่ (fixed rate): อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาที่กำหนด มักจะสูงกว่าดอกเบี้ยลอยตัวในช่วงแรก แต่ช่วยให้วางแผนค่าใช้จ่ายได้ง่าย
- ดอกเบี้ยลอยตัว (floating rate): อัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (เช่น mor, mlr, mrr) มีความเสี่ยงที่ค่าผ่อนชำระจะสูงขึ้นหากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น
- ดอกเบี้ยแบบผสม (hybrid rate): ผสมผสานระหว่างดอกเบี้ยคงที่และดอกเบี้ยลอยตัว
สินเชื่อบ้านจากสถาบันการเงินต่างๆ
ธนาคารหลายแห่งในประเทศไทยมีสินเชื่อบ้านพร้อมโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายๆ ธนาคารก่อนตัดสินใจ
ค่าใช้จ่ายแฝงที่ต้องพิจารณา
นอกเหนือจากค่าบ้านแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องนำมาพิจารณา
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
- ค่าธรรมเนียมการโอน: ค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าจดจำนอง: ค่าธรรมเนียมในการจดจำนอง
- ค่าประเมินราคา: ค่าใช้จ่ายในการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน
- ค่าประกันอัคคีภัย: ประกันคุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้
- ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (mrta): ประกันที่ช่วยคุ้มครองภาระหนี้สินในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิต
- ค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์: ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งและจัดหาเฟอร์นิเจอร์
- ค่าส่วนกลาง (สำหรับคอนโดมิเนียม): ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาส่วนกลาง
ทำเลที่ตั้งมีผลต่อราคาบ้าน
ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาบ้านอย่างมาก บ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีราคาสูงกว่าบ้านในต่างจังหวัด
เปรียบเทียบราคาบ้านในแต่ละพื้นที่
ราคาบ้านในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่จะมีราคาสูงกว่าจังหวัดอื่นๆ พิจารณาความสะดวกในการเดินทาง, ใกล้สถานที่ทำงาน, โรงเรียน, และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ
วางแผนการเงินอย่างไรให้พร้อมซื้อบ้าน?
การวางแผนการเงินที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมตัวซื้อบ้าน
เคล็ดลับการวางแผนการเงิน
- ตั้งเป้าหมาย: กำหนดเป้าหมายการออมเงินที่ชัดเจน
- ทำงบประมาณ: ติดตามรายรับรายจ่ายเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
- ออมเงินดาวน์: ออมเงินดาวน์อย่างน้อย 10-20% ของราคาบ้าน
- ลดหนี้สิน: ชำระหนี้สินที่มีอยู่เพื่อเพิ่มความสามารถในการกู้
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือสินเชื่อบ้าน
นโยบายรัฐบาลและแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์
นโยบายของรัฐบาลและสภาพเศรษฐกิจมีผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์
ผลกระทบจากนโยบายรัฐบาล
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี, โครงการบ้านล้านหลัง, และอัตราดอกเบี้ย
ข้อควรระวังและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการซื้อบ้าน
มีหลายสิ่งที่ผู้ซื้อบ้านมือใหม่มักเข้าใจผิด
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
- เงินเดือนสูง = ซื้อบ้านได้แน่นอน: ไม่จริง เพราะ dti และภาระหนี้สินอื่นๆ ก็สำคัญ
- บ้านราคาถูก = ดีเสมอไป: พิจารณาทำเลที่ตั้ง, สภาพบ้าน, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประกอบ
- มองข้ามค่าใช้จ่ายแฝง: ค่าใช้จ่ายแฝงอาจมีจำนวนมาก ควรเตรียมเงินสำรองให้เพียงพอ
ข้อคิด: อย่ารีบร้อนตัดสินใจ เลือกบ้านที่เหมาะสมกับกำลังทรัพย์และความต้องการของคุณ
สรุป
การซื้อบ้านเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้เวลาและความรอบคอบ พิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างถี่ถ้วน วางแผนการเงินอย่างมีสติ และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถมีบ้านในฝันได้ไม่ยาก
ขั้นตอนต่อไป: ลองคำนวณ dti ของคุณ, เปรียบเทียบสินเชื่อบ้านจากธนาคารต่างๆ, และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อวางแผนการซื้อบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
