รอยแยก... ความจริง... เงา
「การผจญภัยครั้งใหม่กำลังรอเราอยู่」ผมพึมพำ เสียงของผมก้องกังวานในอุโมงค์แสงสีเงิน
ทันทีที่ก้าวข้ามผ่านประตูมิติ ความรู้สึกราวกับถูกกระชากหลุดออกจากโลกเดิมก็ถาโถมเข้าใส่ รอบกายกลายเป็นความว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ ราวกับดวงดาวนับล้านดวงกำลังเต้นระบำอยู่รอบตัว
“Uwah! นี่มันอะไรกันเนี่ย!” ไคโตะร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายวิบวับ
รินกำดาบคาตานะแน่น มองสำรวจรอบกายด้วยความระแวดระวัง “ระวังตัวด้วย ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เราคุ้นเคย”
ความว่างเปล่าค่อยๆ เลือนหายไป เผยให้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามเกินกว่าจะจินตนาการได้ ภูเขาสูงเสียดฟ้าปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ป่าไม้เขียวชอุ่มที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และน้ำตกสีรุ้งที่ไหลลงสู่ทะเลสาบสีมรกต ทุกสิ่งทุกอย่างเปล่งประกายด้วยแสงจันทร์นวลผ่อง
“ที่นี่คือ Tsuki no Seichi... ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งจันทรา” รินพึมพำ
แต่ความงดงามนั้นกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกที่น่าขนลุก ผมรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่กดทับอยู่บนดินแดนแห่งนี้ พลังงานที่มืดมิดและชั่วร้าย
「นี่มันเกิดอะไรขึ้น? บรรยากาศมันแปลกๆ」
ป่าต้องสาป
พวกเราเดินลึกเข้าไปในป่า แสงจันทร์ส่องลอดผ่านกิ่งไม้ลงมาเป็นลำแสงสีเงิน ส่องสว่างให้เห็นเส้นทางที่คดเคี้ยว
“Koko wa… (ที่นี่…)” รินพูดเสียงแผ่วเบา ดวงตาจ้องมองไปยังต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาและไร้ชีวิตชีวา “เมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นป่าที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ แต่ตอนนี้…”
“มันเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่?” ไคโตะถามด้วยความสงสัย
“ปีศาจ… พวกมันกำลังกัดกินพลังของ Tsuki no Seichi” รินตอบ “พวกมันต้องการที่จะทำลายดินแดนแห่งนี้และยึดครองพลังแห่งจันทรา”
ทันใดนั้น เสียงคำรามที่น่ากลัวก็ดังขึ้นจากในป่า ความมืดมิดเริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมทุกสิ่ง
“มาแล้ว!” รินตะโกน “เตรียมตัวต่อสู้!”
จากเงามืด ปรากฏร่างของสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดน่ากลัว ปีศาจที่มีรูปร่างคล้ายหมาป่า แต่มีดวงตาสีแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด และกรงเล็บที่แหลมคมราวกับมีด
“Grrrrr…” ปีศาจคำราม
“พวกมันมากันเยอะมาก!” ไคโตะอุทานด้วยความตกใจ
ปีศาจหมาป่าพุ่งเข้าใส่พวกเราด้วยความเร็วสูง รินชักดาบคาตานะออกมาป้องกันการโจมตี ผมร่ายเวทมนตร์เสริมพลังให้กับดาบของริน
“Tsuki no Inori!” ผมร่ายเวทมนตร์
แสงจันทร์ส่องสว่างจ้าออกมาจากดาบของริน เพิ่มพลังโจมตีและความเร็วให้กับเธอ
รินฟาดฟันดาบใส่ปีศาจหมาป่าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ แต่พวกมันก็มีจำนวนมากเกินไป พวกมันโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทาง
“Yuuki! ช่วยฉันด้วย!” รินตะโกน
ผมรวบรวมพลังเวทมนตร์ ใช้สกิล “Tsūji au Kokoro” เพื่อสื่อสารกับ Tsukuyomi-sama ขอความช่วยเหลือ
“Tsukuyomi-sama! ช่วยพวกเราด้วย!” ผมตะโกนในใจ
ทันใดนั้น แสงจันทร์ก็ส่องสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง พลังงานเวทมนตร์ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของผม ผมรู้สึกถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ที่กำลังรอการปลดปล่อย
Status: Nakamura Yuuki
Level: 2
HP: 60
MP: 30
STR: 12
MAG: 7
DEF: 12
RES: 7
SPD: 14
Skills: Tsūji au Kokoro (จิตที่สื่อถึงกัน), Tsuki no Inori (คำขอแห่งจันทรา), NEW: Tsuki no Hikari (แสงแห่งจันทรา)
สกิลใหม่ปรากฏขึ้น "Tsuki no Hikari (แสงแห่งจันทรา)"
ผมร่ายเวทมนตร์ "Tsuki no Hikari!"
แสงจันทร์ส่องสว่างออกมาจากมือของผม พุ่งเข้าใส่ปีศาจหมาป่า แสงนั้นทรงพลังมากพอที่จะทำให้พวกมันสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
“สุดยอด! Yuuki!” ไคโตะร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
ผมยิ้มให้ไคโตะ ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับปีศาจที่เหลือ
ความทรงจำที่ถูกปิดผนึก
หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือด พวกเราสามารถกำจัดปีศาจหมาป่าได้ทั้งหมด แต่รินได้รับบาดเจ็บสาหัส
“Rin! Daijoubu ka? (ริน! เป็นอะไรไหม?)” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
รินส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อย”
ผมใช้เวทมนตร์รักษาของผมรักษาบาดแผลของริน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยได้ผล
“พิษ… ปีศาจพวกนั้นมีพิษ” รินพึมพำ
ทันใดนั้น รินก็ทรุดตัวลงกับพื้น หมดสติไป
“Rin! Rin!” ผมตะโกนเรียกชื่อเธอ
ไคโตะรีบเข้ามาช่วยประคองรินไว้
“เราต้องทำอะไรสักอย่าง!” ไคโตะพูดด้วยความกังวล
ผมมองไปรอบๆ ตัว มองหาความช่วยเหลือ แต่ในป่าที่มืดมิดและเงียบสงัดนี้ ไม่มีใครสามารถช่วยพวกเราได้
“Tsukuyomi-sama… ช่วยพวกเราด้วย” ผมพึมพำ
ในขณะนั้นเอง แสงจันทร์ก็ส่องสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง ปรากฏร่างของ Tsukuyomi-sama อยู่ตรงหน้าพวกเรา
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเจ้าเอง” Tsukuyomi-sama กล่าว
Tsukuyomi-sama แตะหน้าผากของริน แสงสีเงินส่องสว่างออกมาจากมือของเธอ แสงนั้นค่อยๆ ดูดซับพิษร้ายออกจากร่างกายของริน
หลังจากนั้นไม่นาน รินก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“ที่นี่… ที่ไหน?” รินถามด้วยความสับสน
“เจ้าปลอดภัยแล้ว ริน” Tsukuyomi-sama ตอบ “เจ้าอยู่ใน Tsuki no Seichi ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งจันทรา”
รินมองไปที่ Tsukuyomi-sama ด้วยความสงสัย
“เจ้า… คือใคร?” รินถาม
“ข้าคือ Tsukuyomi เทพแห่งจันทรา” Tsukuyomi-sama ตอบ “และเจ้า… คือผู้ที่ถูกเลือก”
“ผู้ที่ถูกเลือก?” รินถาม
Tsukuyomi-sama พยักหน้า “เจ้าคือผู้ที่ถูกเลือกให้ปกป้อง Tsuki no Seichi จากปีศาจ”
“แต่… ทำไมต้องเป็นฉัน?” รินถาม “ฉันเป็นแค่นักรบธรรมดาๆ คนหนึ่ง”
“เจ้าไม่ใช่แค่นักรบธรรมดาๆ ริน” Tsukuyomi-sama ตอบ “เจ้าคือทายาทของตระกูลผู้พิทักษ์จันทรา ผู้ที่มีสายเลือดของเทพเจ้าไหลเวียนอยู่ในร่างกาย”
รินตกตะลึงกับคำพูดของ Tsukuyomi-sama เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอมีสายเลือดของเทพเจ้าอยู่ในตัว
「นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมรินถึงมีสายเลือดของเทพเจ้า? 」
Tsukuyomi-sama มองไปที่รินด้วยสายตาที่อ่อนโยน
“ความทรงจำของเจ้าถูกปิดผนึกไว้ ริน” Tsukuyomi-sama กล่าว “แต่ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องรู้ความจริงเกี่ยวกับอดีตของเจ้า”
Tsukuyomi-sama แตะหน้าผากของรินอีกครั้ง คราวนี้ แสงสีทองส่องสว่างออกมาจากมือของเธอ แสงนั้นค่อยๆ ปลดปล่อยความทรงจำที่ถูกปิดผนึกไว้ของริน
ภาพต่างๆ เริ่มฉายขึ้นในดวงตาของริน ภาพของสงครามที่ดุเดือดระหว่างเทพเจ้าและปีศาจ ภาพของความรักและความสูญเสีย ภาพของความหวังและความสิ้นหวัง
รินเริ่มร้องไห้ออกมา ความทรงจำที่ถูกปลดปล่อยนั้นเจ็บปวดเกินกว่าที่เธอจะทนได้
ผมเข้าไปกอดรินไว้แน่น ปลอบโยนเธอ
“ไม่เป็นไรนะ ริน ฉันอยู่ตรงนี้” ผมกระซิบ
รินซบหน้าลงกับอกของผม ร้องไห้อย่างหนัก
“ฉัน… ฉันคือใคร?” รินถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“เจ้าคือริน รินที่ฉันรู้จัก” ผมตอบ “และฉันจะอยู่ข้างๆ เจ้าเสมอ”
เงาแห่งความสิ้นหวัง
หลังจากที่รินสงบสติอารมณ์ได้ Tsukuyomi-sama ก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พวกเราฟัง
เมื่อนานมาแล้ว เคยมีสงครามที่ยิ่งใหญ่ระหว่างเทพเจ้าและปีศาจ สงครามที่เกือบจะทำลายโลกทั้งใบ เทพเจ้าสามารถเอาชนะปีศาจได้ แต่ก็ต้องสูญเสียพลังไปเป็นจำนวนมาก
ตระกูลของรินคือตระกูลผู้พิทักษ์จันทรา ตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากเทพแห่งจันทรา ตระกูลที่คอยปกป้อง Tsuki no Seichi จากปีศาจ
แต่เมื่อหลายปีก่อน ปีศาจได้วางแผนที่จะทำลายตระกูลของริน พวกมันได้โจมตี Tsuki no Seichi และสังหารทุกคนในตระกูลของริน รินเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว แต่ความทรงจำของเธอก็ถูกปิดผนึกไว้ เพื่อปกป้องเธอจากปีศาจ
“ทำไม… ทำไมถึงต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับฉัน?” รินถามด้วยความสิ้นหวัง
“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ริน” Tsukuyomi-sama ตอบ “มันเป็นโชคชะตา โชคชะตาที่เจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับมัน”
“แต่ฉัน… ฉันไม่แข็งแกร่งพอ” รินพูด “ฉันไม่สามารถปกป้อง Tsuki no Seichi ได้”
“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่เจ้าคิด ริน” Tsukuyomi-sama ตอบ “เจ้ามีสายเลือดของเทพเจ้าอยู่ในตัว และเจ้ามีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือเจ้า”
Tsukuyomi-sama มองมาที่ผมและไคโตะ
“พวกเขาคือเพื่อนของเจ้า พวกเขาจะช่วยเจ้าปกป้อง Tsuki no Seichi” Tsukuyomi-sama กล่าว
ผมพยักหน้าให้ริน “ไม่ต้องห่วง ริน ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอเสมอ”
ไคโตะยิ้มให้ริน “ใช่ พวกเราจะช่วยเธอเอง”
รินมองมาที่ผมและไคโตะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ
“ขอบคุณ… ขอบคุณมาก” รินพูด
“แต่…” Tsukuyomi-sama พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก ปีศาจกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และพวกมันกำลังวางแผนที่จะโจมตี Tsuki no Seichi อีกครั้ง”
“ถ้าพวกมันทำลาย Tsuki no Seichi พลังแห่งจันทราจะหายไปจากโลก และโลกทั้งใบจะตกอยู่ในความมืดมิด” Tsukuyomi-sama กล่าว
“เราต้องทำอะไรสักอย่าง!” ผมพูด
“ใช่ เราต้องปกป้อง Tsuki no Seichi” รินพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่
“แต่เราจะทำยังไง?” ไคโตะถาม
Tsukuyomi-sama มองไปที่พวกเราด้วยสายตาที่ลึกลับ
“ข้าจะมอบพลังให้กับพวกเจ้า พลังที่จะช่วยให้พวกเจ้าปกป้อง Tsuki no Seichi” Tsukuyomi-sama กล่าว
“แต่ก่อนอื่น… พวกเจ้าต้องเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเอง” Tsukuyomi-sama กล่าว
ทันใดนั้น พื้นดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ปีศาจจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นรอบตัวพวกเรา
“พวกมันมาแล้ว!” รินตะโกน
“จงกล้าหาญ และจงเชื่อมั่นในตัวเอง” Tsukuyomi-sama กล่าว “ชะตากรรมของ Tsuki no Seichi อยู่ในมือของพวกเจ้าแล้ว”
Tsukuyomi-sama หายตัวไป ทิ้งให้พวกเราเผชิญหน้ากับปีศาจเพียงลำพัง
ปีศาจพุ่งเข้าใส่พวกเราด้วยความเร็วสูง ผม ริน และไคโตะเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้
「เราจะสามารถปกป้อง Tsuki no Seichi ได้หรือไม่? หรือว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะสูญสิ้น? 」
