แสงแห่งความหวัง
“ริน! หลบไป!” ฮารุกิตะโกนสุดเสียง พลางผลักรินให้พ้นจากวิถีกระสุนเวทมนตร์สีดำที่พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ กระสุนเฉียดไหล่รินไปนิดเดียว
「แย่แล้ว... เมื่อกี้เกือบไปแล้วจริงๆ ถ้าเราช้ากว่านี้แค่เสี้ยววินาที 」ฮารุกิคิดในใจ พลางมองสำรวจรอบๆ ตัวอย่างระมัดระวัง
จากในพุ่มไม้ ปรากฏร่างของชายในชุดเกราะสีดำสนิท สวมหน้ากากเหล็กที่ปิดบังใบหน้ามิดชิด ออร่าสีดำทะมึนแผ่ออกมาจากตัวเขา
“พวกแก... กล้าขัดขวางแผนการของจักรวรรดิมืด!” ชายในชุดเกราะคำราม เสียงของเขาแหบพร่าและเต็มไปด้วยความโกรธ
ซาสึเกะกระโดดออกมาข้างหน้าฮารุกิและริน กางดาบคาตานะออกป้องกัน “จักรวรรดิมืด... พวกแกต้องการอะไรกันแน่?”
“หึ! เรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องบอกพวกแก!” ชายในชุดเกราะยกมือขึ้น ร่ายเวทมนตร์สีดำที่ดูน่าสะพรึงกลัว “จงหายไปซะ!”
กระสุนเวทมนตร์สีดำพุ่งเข้าใส่พวกฮารุกิ ซาสึเกะใช้ดาบปัดป้องอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีบางส่วนที่หลุดรอดเข้ามา
“บาเรีย!” ฮารุกิตะโกนออกมา สร้างบาเรียเวทมนตร์ป้องกันพวกเขาทั้งสามคนไว้ได้ กระสุนเวทมนตร์สีดำปะทะกับบาเรีย เกิดเป็นเสียงระเบิดดังสนั่น
「ไม่ไหว... พลังของหมอนี่แข็งแกร่งมาก บาเรียของเราคงรับไม่ไหวแน่ๆ 」ฮารุกิรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง
“ฮารุกิ! ใช้เวทมนตร์โจมตี!” รินตะโกนบอก
ฮารุกิพยักหน้า เขาหลับตาลง รวบรวมสมาธิทั้งหมด
「เราต้องทำได้... เราต้องปกป้องรินและซาสึเกะ... เราต้องปกป้องเมืองฮานะ โนะ มาจิ! 」
เมื่อลืมตาขึ้น ดวงตาของฮารุกิเปล่งประกายสีฟ้า เขาชูมือขึ้น ร่ายเวทมนตร์
“สร้างฝน!”
ท้องฟ้าเหนือพวกเขาเริ่มมืดครึ้ม เมฆฝนก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และแล้วสายฝนก็โปรยปรายลงมา
แต่ฝนที่ฮารุกิสร้างขึ้น ไม่ใช่ฝนธรรมดา มันคือฝนแห่งเวทมนตร์! แต่ละหยาดฝนเต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์ที่สามารถชำระล้างความมืดมิดได้
“อะไรกันน่ะ?!” ชายในชุดเกราะอุทานด้วยความตกใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันบริสุทธิ์ที่แผ่ออกมาจากสายฝน
สายฝนแห่งเวทมนตร์ปะทะกับเกราะสีดำของเขา เกิดเป็นเสียงซ่าๆ เหมือนน้ำเดือด เกราะเริ่มละลายและอ่อนแอลง
“แก... แกทำได้ยังไง?!” ชายในชุดเกราะเริ่มถอยร่น
ซาสึเกะไม่รอช้า เขาพุ่งเข้าไปหาชายในชุดเกราะอย่างรวดเร็ว ฟันดาบคาตานะเข้าใส่
“ฮึ่ม!” ชายในชุดเกราะยกแขนขึ้นป้องกัน แต่ดาบคาตานะของซาสึเกะคมกริบ เกราะที่อ่อนแอลงจากสายฝนไม่อาจต้านทานได้ ดาบผ่าลงไปที่แขนของชายในชุดเกราะ
“อ้ากก!” ชายในชุดเกราะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาถอยหลังไปหลายก้าว
“ริน! ตอนนี้แหละ!” ซาสึเกะตะโกนบอก
รินพยักหน้า เธอวิ่งเข้าไปหาชายในชุดเกราะด้วยความเร็วสูง กระโดดขึ้นกลางอากาศ และฟันดาบลงมา
“โทริยา!” (คำราม)
ดาบของรินผ่าลงไปที่หน้ากากของชายในชุดเกราะ หน้ากากแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“แก... พวกแกจะต้องเสียใจ!” ชายในชุดเกราะคำรามก่อนจะหายตัวไปในความมืด
เมื่อชายในชุดเกราะหายไปแล้ว สายฝนก็ค่อยๆ จางหายไป ท้องฟ้ากลับมาสว่างสดใสอีกครั้ง
ฮารุกิทรุดตัวลงกับพื้น เขารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก
“ฮารุกิ! เป็นอะไรไหม?” รินรีบเข้ามาประคอง
“ไม่เป็นไร... แค่เหนื่อยนิดหน่อย” ฮารุกิตอบ
“ขอบคุณนะฮารุกิ ถ้าไม่ได้นาย พวกเราคงแย่แน่ๆ” รินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
「ริน... เธอกำลังเป็นห่วงเรา 」ฮารุกิรู้สึกอบอุ่นในใจ
ซาสึเกะเดินเข้ามาใกล้ “พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่ จักรวรรดิมืดคงไม่ปล่อยพวกเราไปง่ายๆ แน่”
“อืม” ฮารุกิพยักหน้า “ไปกันเถอะ พวกเราต้องไปที่เมืองฮานะ โนะ มาจิ ให้เร็วที่สุด”
ความสิ้นหวัง
หลายวันผ่านไป ฮารุกิ ริน และซาสึเกะเดินทางมาถึงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งเพื่อพักค้างคืน
ในห้องพักเล็กๆ ของโรงเตี๊ยม ฮารุกินั่งอยู่บนเตียง มองสมุดเทพเจ้าในมือด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง
「เรา... เราไม่เก่งพอ เราไม่สามารถปกป้องใครได้เลย เราอ่อนแอเกินไป 」ฮารุกิคิดในใจ
ภาพเหตุการณ์ในป่าหวนกลับมาในความคิดของเขา ภาพที่เขาเกือบจะปกป้องรินและซาสึเกะไม่ได้ ภาพที่ชายในชุดเกราะแข็งแกร่งจนเขาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
“เราควรจะทำยังไงดี...” ฮารุกิพึมพำกับตัวเอง
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตู
“ฮารุกิ เป็นอะไรหรือเปล่า?” รินถามจากด้านนอก
ฮารุกิรีบซ่อนสมุดเทพเจ้าไว้ใต้หมอน “ไม่... ไม่มีอะไร”
รินเปิดประตูเข้ามา เธอมองฮารุกิด้วยความเป็นห่วง
“นายดูไม่ค่อยดีเลยนะ มีอะไรหรือเปล่า?”
ฮารุกิส่ายหน้า “ไม่... แค่เหนื่อย”
รินเดินเข้ามาใกล้ นั่งลงข้างๆ ฮารุกิ
“ฮารุกิ... นายไม่ต้องฝืนตัวเองก็ได้นะ ถ้านายไม่ไหว เราจะสู้ไปด้วยกัน”
ฮารุกิมองหน้าริน เขาเห็นแววตาที่เป็นห่วงเป็นใยในดวงตาของเธอ
“ริน...”
“ฉันรู้ว่านายรู้สึกยังไง นายกำลังกลัวใช่ไหม กลัวว่าจะปกป้องใครไม่ได้” รินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ฮารุกิพยักหน้า น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
“มันไม่เป็นไรหรอกฮารุกิ ความกลัวเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่สำคัญคือ นายต้องไม่ยอมแพ้ให้กับความกลัวนั้น”
รินเอื้อมมือมาจับมือของฮารุกิ
“นายมีพลังที่ยิ่งใหญ่ ฮารุกิ นายสามารถสร้างสิ่งที่นายจินตนาการได้ นายสามารถเปลี่ยนโลกได้”
“แต่เรา...” ฮารุกิพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เราไม่รู้ว่าจะใช้พลังนี้ยังไง เรากลัวว่าเราจะทำพลาด”
“ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ฮารุกิ ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบหรอก สิ่งที่สำคัญคือ นายต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด และก้าวต่อไป”
คำพูดของรินทำให้ฮารุกิรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
“ขอบคุณนะริน” ฮารุกิพูด
“ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่ข้างๆ นายเสมอ” รินตอบ
หลังจากรินออกไป ฮารุกินั่งอยู่คนเดียวในห้อง เขาหยิบสมุดเทพเจ้าขึ้นมาอีกครั้ง
「รินพูดถูก ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เราต้องไม่ยอมแพ้ เราต้องเผชิญหน้ากับความกลัวของเรา 」ฮารุกิคิดในใจ
ฮารุกิเปิดสมุดเทพเจ้า เขาหยิบปากกาขึ้นมา และเริ่มเขียน
“ถึงริน…”
เขียนถึงหัวใจ
ฮารุกิเขียนจดหมายถึงริน เขาเขียนถึงความรู้สึกของเขา ความกลัว ความสิ้นหวัง และความหวัง
เขาเขียนถึงความประทับใจที่เขามีต่อริน ความกล้าหาญ ความแข็งแกร่ง และความอ่อนโยนของเธอ
เขาเขียนถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะปกป้องรินและทุกคนที่เขารัก
ขณะที่ฮารุกิเขียน สมุดเทพเจ้าก็เริ่มเปล่งแสงสีทองออกมา พลังเวทมนตร์ไหลเวียนอยู่ในอากาศ
ฮารุกิรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นในตัวเขา พลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
เมื่อฮารุกิเขียนจบ สมุดเทพเจ้าก็ปิดลงเอง
ฮารุกิมองสมุดเทพเจ้าในมือด้วยความรู้สึกใหม่ ความรู้สึกของความหวังและความมุ่งมั่น
「เราจะทำได้ เราจะปกป้องทุกคนได้ 」ฮารุกิคิดในใจ
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก
“พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว! ไม่มีทางหนีไปได้!”
“จักรวรรดิมืด!” ซาสึเกะตะโกน
ฮารุกิลุกขึ้นยืน คว้าสมุดเทพเจ้าไว้ในมือ
“ไปกันเถอะ!”
ฮารุกิ ริน และซาสึเกะวิ่งออกจากห้องพัก พวกเขาพบว่าตัวเองถูกล้อมรอบไปด้วยทหารของจักรวรรดิมืด
“มอบสมุดเทพเจ้ามาซะ!” หัวหน้าทหารตะโกน
ฮารุกิก้าวออกมาข้างหน้า เขามองหน้าทหารแต่ละคนด้วยสายตาที่แน่วแน่
“พวกแกไม่มีวันได้สมุดเทพเจ้าไปจากพวกเรา!”
“งั้นก็ตายซะ!” หัวหน้าทหารสั่ง
ทหารของจักรวรรดิมืดพุ่งเข้าใส่ฮารุกิ ริน และซาสึเกะ
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น!
Status: Nanase Haruki
Level: 2
HP: 120/120
MP: 70/70
โจมตี: 15
ป้องกัน: 10
ความเร็ว: 20
เวทมนตร์: 25
Skills: [บาเรีย (Barrier), สร้างฝน (Sāng fon), ควบคุมพลังเวทมนตร์เบื้องต้น (Khwām khūapkhum phalang wētmon bư̄angton), กระแสเวทย์ (Krasae wet)]
ฮารุกิรู้สึกถึงพลังที่ไหลเวียนในร่างกายของเขา พลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิม พลังที่พร้อมจะปกป้องคนที่เขารัก
เขายิ้มออกมา
「เราจะสู้! เราจะปกป้องทุกคน! 」
