เลือกถังเก็บน้ำ: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับบ้านคุณ (2024)

น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตประจำวันของเราทุกคน การมีถังเก็บน้ำที่ดีและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งบางพื้นที่อาจประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ หรือมีแรงดันน้ำไม่สม่ำเสมอ บทความนี้จะนำเสนอคู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับการเลือกถังเก็บน้ำที่เหมาะสมกับความต้องการของบ้านคุณ ตั้งแต่ประเภทของถัง ขนาด วัสดุ การติดตั้ง ไปจนถึงงบประมาณและการดูแลรักษา

ประเภทถังเก็บน้ำ

ถังเก็บน้ำมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป การทำความเข้าใจคุณสมบัติของแต่ละประเภทจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกถังที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบ้านของคุณ

ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส (fiberglass)

ถังไฟเบอร์กลาสขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานและน้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี แต่มีราคาสูงกว่าถังประเภทอื่นๆ

• ข้อดี: แข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อน
• ข้อเสีย: ราคาสูง อาจมีการรั่วซึมหากติดตั้งไม่ถูกต้อง
• อายุการใช้งาน: 20-30 ปี

ถังเก็บน้ำโพลีเอทิลีน (polyethylene - pe)

ถัง pe เป็นที่นิยมเนื่องจากราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย และมีหลากหลายขนาดให้เลือก ควรเลือกถัง pe ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก food grade และมี uv stabilizer เพื่อป้องกันแสงแดด

• ข้อดี: ราคาถูก ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา มีหลากหลายขนาด
• ข้อเสีย: ความทนทานน้อยกว่าไฟเบอร์กลาส อาจเกิดตะไคร่น้ำได้ง่ายหากไม่มีสารป้องกัน
• อายุการใช้งาน: 5-15 ปี

ถังเก็บน้ำสแตนเลส (stainless steel)

ถังสแตนเลสมีความทนทานสูง ทนต่อการกัดกร่อน และไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับเก็บน้ำดื่ม แต่มีราคาสูงที่สุดในบรรดาถังเก็บน้ำทั้งหมด

• ข้อดี: ทนทานมาก ทนต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับเก็บน้ำดื่ม
• ข้อเสีย: ราคาสูงที่สุด น้ำหนักมาก
• อายุการใช้งาน: 30 ปีขึ้นไป

ถังเก็บน้ำคอนกรีต (concrete)

ถังคอนกรีตมีความแข็งแรงทนทานมาก แต่มีน้ำหนักมาก ติดตั้งยาก และอาจมีการรั่วซึมได้

• ข้อดี: แข็งแรงทนทานมาก
• ข้อเสีย: น้ำหนักมาก ติดตั้งยาก อาจมีการรั่วซึม
• อายุการใช้งาน: 50 ปีขึ้นไป (หากสร้างอย่างถูกต้อง)

ขนาดถัง

การเลือกขนาดถังเก็บน้ำที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอต่อความต้องการของครัวเรือนของคุณ ปัจจัยที่ต้องพิจารณา ได้แก่ จำนวนสมาชิกในครอบครัว ปริมาณการใช้น้ำต่อวัน และแรงดันน้ำ

การคำนวณขนาดถังที่เหมาะสม

โดยทั่วไปแล้ว แต่ละคนใช้น้ำประมาณ 200 ลิตร/วัน หากครอบครัวของคุณมีสมาชิก 4 คน จะต้องใช้น้ำประมาณ 800 ลิตร/วัน ดังนั้น ควรเลือกถังที่มีขนาดอย่างน้อย 1000 ลิตร เพื่อให้มีน้ำสำรองในกรณีฉุกเฉิน

ตารางเปรียบเทียบขนาดถังกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว

วัสดุ

วัสดุที่ใช้ในการผลิตถังเก็บน้ำมีผลต่อความทนทาน ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของถัง การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ

คุณสมบัติของวัสดุแต่ละประเภท

• ความทนทานต่อแสง uv: วัสดุที่ทนต่อแสง uv จะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของถังจากแสงแดด
• การเกิดตะไคร่น้ำ: วัสดุบางชนิดอาจง่ายต่อการเกิดตะไคร่น้ำ ควรเลือกวัสดุที่มีสารป้องกัน
• ความแข็งแรง: วัสดุที่แข็งแรงจะทนต่อแรงกระแทกและการกัดกร่อนได้ดี
• การบำรุงรักษา: วัสดุบางชนิดอาจต้องการการบำรุงรักษามากกว่าวัสดุอื่นๆ

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของวัสดุ

การติดตั้ง

การติดตั้งถังเก็บน้ำอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ถังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย มีการติดตั้งสองรูปแบบหลักๆ คือ การติดตั้งบนดินและการติดตั้งใต้ดิน

การติดตั้งบนดิน (above ground)

เป็นการติดตั้งที่ง่ายและสะดวกกว่า สามารถตรวจสอบและบำรุงรักษาได้ง่าย แต่ต้องมีพื้นที่เพียงพอ และอาจทำให้เสียทัศนียภาพ

การติดตั้งใต้ดิน (underground)

ช่วยประหยัดพื้นที่และรักษาทัศนียภาพ แต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และการบำรุงรักษาทำได้ยากกว่า ควรเลือกถังที่ออกแบบมาสำหรับการติดตั้งใต้ดินโดยเฉพาะ

"การติดตั้งถังใต้ดินอาจต้องขออนุญาตจากหน่วยงานราชการในท้องถิ่น ควรตรวจสอบข้อกำหนดก่อนทำการติดตั้ง" - ช่างประปามืออาชีพ

งบประมาณ

งบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกถังเก็บน้ำ ควรพิจารณาราคาถัง ค่าติดตั้ง และค่าบำรุงรักษาในระยะยาว

ราคาถังเก็บน้ำ

ราคาถังเก็บน้ำแตกต่างกันไปตามประเภท ขนาด และวัสดุ ถัง pe มีราคาถูกที่สุด ในขณะที่ถังสแตนเลสมีราคาสูงที่สุด

ค่าติดตั้ง

ค่าติดตั้งขึ้นอยู่กับประเภทของการติดตั้งและขนาดของถัง การติดตั้งใต้ดินจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการติดตั้งบนดิน

ค่าบำรุงรักษา

ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดและซ่อมแซมถังในระยะยาว ถัง pe อาจต้องทำความสะอาดบ่อยกว่าถังประเภทอื่นๆ

แหล่งน้ำ

แหล่งน้ำที่ใช้เติมถังเก็บน้ำมีผลต่อการเลือกวัสดุของถัง หากใช้น้ำประปา สามารถเลือกถัง pe หรือไฟเบอร์กลาสได้ แต่หากใช้น้ำบาดาล ควรเลือกถังสแตนเลสหรือไฟเบอร์กลาส

น้ำประปา (tap water)

น้ำประปามีคลอรีนซึ่งอาจกัดกร่อนวัสดุบางชนิด ควรเลือกถังที่ทนต่อสารเคมี

น้ำบาดาล (well water)

น้ำบาดาลอาจมีแร่ธาตุและสารปนเปื้อน ควรเลือกถังที่ทนต่อการกัดกร่อนและไม่เป็นสนิม

น้ำฝน (rainwater)

น้ำฝนเป็นน้ำที่สะอาด แต่ควรมีระบบกรองก่อนนำมาใช้ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรค

การดูแลรักษา

การดูแลรักษาถังเก็บน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของถังและป้องกันการปนเปื้อนของน้ำ

ความถี่ในการทำความสะอาด

ควรทำความสะอาดถังเก็บน้ำอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดตะกอนและตะไคร่น้ำ

การป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ

ควรเลือกถังที่มีสารป้องกันตะไคร่น้ำ และติดตั้งถังในที่ร่ม หรือมีร่มเงาบังแสงแดด

การซ่อมแซม

หากพบรอยร้าวหรือรอยรั่ว ควรรีบซ่อมแซมทันที เพื่อป้องกันการรั่วซึมและการปนเปื้อน

การเลือกถังเก็บน้ำที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งประเภท ขนาด วัสดุ การติดตั้ง งบประมาณ แหล่งน้ำ และการดูแลรักษา การทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกถังเก็บน้ำที่คุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนานที่สุด เพื่อให้มีน้ำสะอาดใช้เพียงพอตลอดเวลา

สรุป

การเลือกถังเก็บน้ำที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เริ่มจากการเลือกประเภทของถังที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณ คำนวณขนาดถังให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว เลือกวัสดุที่ทนทานและปลอดภัย ติดตั้งถังอย่างถูกต้อง และดูแลรักษาถังอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีน้ำสะอาดใช้เพียงพอตลอดเวลา

ขั้นตอนต่อไป:

1. ประเมินความต้องการใช้น้ำของครอบครัว
2. กำหนดงบประมาณ
3. สำรวจประเภทถังเก็บน้ำที่มีในตลาด
4. เปรียบเทียบคุณสมบัติและราคา
5. เลือกถังที่เหมาะสมที่สุด
6. ติดต่อช่างผู้ชำนาญเพื่อทำการติดตั้ง

คำถามที่พบบ่อย (faq)

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

• มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
• แนวทางการประหยัดน้ำ