
3 ปีที่ผ่าน แนวความคิดการทำธุรกิจสตาร์ทอัพกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยแนวคิดดังกล่าวนับเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง และต้องส่งเสริมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก กลุ่มคนเหล่านี้เป็นวิสาหกิจกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นวิสาหกิจแห่งอนาคตที่จะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจสตาร์ทอัพในภาพรวมจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ตามมาด้วยนั้น พบว่า ธุรกิจที่มีความคล้ายคลึงกันกลับมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ เหล่าสตาร์ทอัพจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลุกขึ้นมาหากลยุทธ์โดยเฉพาะในการสร้างคอนเทนท์ หรือเนื้อหา เพื่อให้แบรนด์สินค้า หรือบริการของตนเป็นที่จดจำและโดดเด่นจากผู้อื่น
- กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
การมีคอนเทนท์ที่ดีต้องทราบก่อนว่า จะสื่อสารกับใคร คนแต่ละกลุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ หรือต้องการอยากรู้อะไร ชอบข้อความหรือสื่อประเภทแบบไหน มีอุปสรรคและปัญหาอะไรที่สินค้าหรือบริการจะเข้าไปช่วยแก้ผ่านคอนเทนท์ได้บ้าง ซึ่งเมื่อทราบทั้งหมดก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาพบเจอกับสิ่งที่ต้องการนำเสนอและช่วยให้เข้าถึงแบรนด์สินค้า หรือบริการได้ง่ายขึ้น
- ใช้ความสร้างสรรค์เพื่อสร้างคอนเทนต์ให้โดดเด่น
การสอดแทรกเนื้อหาผ่านการใช้ภาษาที่มีความแปลกใหม่ เร้าอารมณ์ เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้คอนเทนท์ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะต้องมีความทันสมัย มีสิ่งที่ดึงดูดสายตาให้หยุดชมหรืออ่านได้ รวมทั้งยังจะต้องประกอบไปด้วยความรู้ ความกล้าที่จะแตกต่าง และจินตนาการ
- รูปแบบในการนำเสนอ
ในการทำคอนเทนท์ให้โดนใจไม่ใช่เพียงแต่เป็นเขียนเพียงอย่างเดียว ลองเปลี่ยนรูปแบบในการนำเสนอคอนเทนต์ อาทิ การใช้ภาพ วีดีโอ หรืออินโฟกราฟิกในการนำเสนอเพื่อช่วยดึงดูดให้คนอ่านไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อ
4.หมั่นตามกระแส
เมื่อเกิดกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นรายวันถือเป็นอีกโอกาสสำคัญด้านหนึ่งที่แบรนด์จะสามารถนำมาต่อยอดทำเป็นคอนเทนต์ที่น่าสนใจได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงความเกี่ยวข้องของกระแสกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย ว่าไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ซึ่งหากเป็นไปในทิศทางเดียวกันก็จะนำมาซึ่งการพูดถึงและการบอกต่อ
- สร้างKEYWORD LIST
คีย์เวิร์ด คือ คำหรือวลีที่ผู้บริโภคส่วนมากใช้ค้นหาข้อมูลจากช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะเป็นคำที่สะท้อนถึงปัญหาหรือความต้องการของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ หากเลือก คีย์เวิร์ด ถูกต้อง ก็จะทำให้ผู้ใช้บริการออนไลน์สนใจหรืออยากซื้อสินค้าและบริการ
6.SEO ขาดไม่ได้
SEO (Search engine optimization) คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาในตำแหน่งที่ดีที่สุด หรือ ติดหน้าแรกของ Search Engine ต่างๆ เช่น Google, Yahoo, Bing ซึ่งการจะทำให้เว็บไซต์แสดงผลในอันดับที่ดีได้นั้น มีขั้นตอนและปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกันทั้งในเรื่องของเนื้อหา วิดีโอ ภาพนิ่งที่สอดคล้อง ฯลฯ ดังนั้นหากเราสามารถทำให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกหรือติดอันดับต้นๆ บนผลการค้นหาได้แล้ว เราจะสามารถเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
- HEADLINE โดนใจ
การสร้างหัวเรื่อง หรือ Headline เป็นสิ่งแรกและเป็นหัวใจสำคัญของคอนเทนท์ที่ต้องการจะนำเสนอ เนื่องจาก ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด และเป็นส่วนที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมองว่าแต่ละโพสต์ เรื่องราว บทความ หรือโฆษณาเกี่ยวกับอะไร นอกจากนี้ Headline ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มโอกาสดึงดูดสายตาของผู้อ่านลงมายังเนื้อหา พร้อมกับเรียกร้องความสนใจให้สินค้าและบริการเป็นที่พูดถึงมากขึ้น
- ข้อมูลแหล่งที่มา
ในการสร้างคอนเทนท์บางครั้งจำเป็นต้องมีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาหรือการค้นจากแหล่งที่มาที่หลากหลาย ดังนั้นเนื้อหาหลักๆ อาทิ ตัวเลขหรือข้อเท็จจริงทุกอย่างที่อ้างอิงในคอนเทนต์ ต้องมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ อาทิ สำนักข่าว องค์กรวิจัย หรือสถาบันการศึกษา ข้อมูลที่ถูกต้องนั้นนอกจากจะทำให้คอนเทนต์ของเรามีคุณภาพแล้ว การกล่าวถึงข้อมูลผิดๆ อาจสร้างความเสียหายให้กับผู้อ่าน หรือมีปัญหาในทางกฎหมายได้
- คอนเทนท์ต้องช่วยแก้ปัญหา
ธรรมชาติของผู้บริโภคส่วนใหญ่ มักจะรู้สึกประทับใจหากมีสินค้าหรือบริการที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ดังนั้น หากต้องการให้คอนเทนท์เป็นที่ชื่นชอบ สตาร์ทอัพจึงต้องสร้างคอนเทนท์ที่สามารถช่วยเหลือ แก้ปัญหา ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คอนเทนท์เข้าไปอยู่ในใจของกลุ่มเป้าหมายได้
- ปรับปรุงและพัฒนาอยู่เสมอและอัพเดทอย่างต่อเนื่อง
การทำคอนเทนท์ที่ดีควรมีความเสมอต้นเสมอปลาย เนื้อหามีความสดใหม่ น่าอ่าน กระชับ ชัดเจน มีประโยชน์ และมีระยะเวลาในการปล่อยคอนเทนท์ที่สม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้มีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้น
และปัจจุบันการใช้ Social Media เผยแพร่เนื้อหาและข่าวสารของแบรนด์ สามารถช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นทั้งผู้บริโภคและผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี แต่การทำคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งที่ดีก็ไม่ควรถ่ายทอดในรูปแบบที่ฮาร์ดเซลล์ แต่ควรจะต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายที่มุ่งหวังให้เป็นลูกค้าในอนาคต